โยฮัน ไกรฟฟ์ จากอดีตนักเตะข้างถนนสู่สุดยอดนักเตะเทวดาในตำนาน [Part3] – KUBET

KUBET เปิดประวัตินักเตะในตำนานต่อจาก [Part 1, Part2] กับ “โยฮัน ไกรฟฟ์” จากอดีตนักเตะข้างถนนสู่สุดยอดนักเตะที่โลกต้องจารึกชื่อไว้ สร้างชื่อเสียงด้วยฝีเท้าและรางวัลมากมายจนได้รับฉายา “นักเตะเทวดา” เขาคือนักเตะที่ทำให้เบอร์ธรรมดากลายเป็นเบอร์ที่พิเศษกว่าใคร แถมยังเป็นผู้ที่ให้แง่คิดที่ใช้ได้ในโลกจริง และนี่คือเรื่องราวของหนึ่งบุคคลในตำนานวงการโลกฟุตบอล ตามเคยูไปดูกันเลย

ประวัตินักเตะ “โยฮัน ไกรฟฟ์”

ฟุตบอลโลกครั้งสุดท้าย

ถึงแม้ในนัดนั้นจะพ่ายแพ้ ก็ต้องยกนิ้วให้กับเจ้าภาพจริงๆ เพราะเขาสามารถพลิกเกมกลับมาทำแต้มได้ 2-1 อย่างรวดเร็ว สุดท้ายทีมชาติฮอลแลนด์ทำได้เพียงรองแชมป์ แต่พวกเขากลับถูกยกย่องว่าเป็นทีมรองแชมป์ที่ดีที่สุดตลอดกาล โดยหลังจากจบศึกฟุตบอลโลกในครั้งนั้น “โยฮัน ไกรฟฟ์” ได้รับรางวัลลูกบอลทองคำ หรือเรียกว่า “นักเตะยอดเยี่ยม” มาอีกด้วย และถึงแม้จะไม่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแชมป์ฟุตบอลโลก แต่โยฮัน ไกรฟฟ์และโททัลฟุตบอลก็ได้เป็นที่ประจักษ์สายตาแฟนบอลทั่วโลก

ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET

ในปี 1974 โยฮัน ไกรฟฟ์ยังสามารถคว้าสุดยอดรางวัลอย่างบัลลงดอร์ได้อีก 1 ครั้ง แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ฟุตบอลโลกในครั้งนั้นต้องกลายเป็นฟุตบอลโลกครั้งสุดท้ายของเขาไป เนื่องจากเขาและครอบครัวโดนข่มขู่ ทำให้เขาต้องปฏิเสธการรับใช้ชาติในครั้งนั้นไป เพื่อความปลอดภัยของครอบครัว 

ผู้กอบกู้สโมสรบาร์เซโลนา

อย่างไรก็ตาม ในสโมสรบาร์เซโลนาเขาช่วยทีมได้อย่างมากเลยทีเดียว ถึงแม้จะไม่ได้แชมป์สักเท่าไหร่ เพราะเป้าหมายของบาร์ซ่าในตอนนั้นคือการต่อสู้กับสโมสรเรอัลมาดริด และถือว่าโยฮัน ไกรฟฟ์เข้ามายกระดับบาร์เซโลนาต่อสู้กับเรอัลมาดริดอย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งเขายังได้รับฉายาในทีมอีกว่าเป็น “เอลซัลวาดอร์” ความหมายก็คือผู้กอบกู้สโมสรนั่นเอง โดยโยฮันอยู่กับบาร์ซ่าไปถึง 5 ฤดูกาลด้วยกัน

ก่อนจะย้ายออกไปพเนจรกับสโมสรลีกนอกที่สหรัฐอเมริกาอยู่พักหนึ่ง จนในที่โยฮัน ไกรฟฟ์ในวัย 33 ปีก็กลับคืนสู่ถิ่นในสโมสรอายักซ์ อัมสเตอร์ดัมอีกครั้ง ท่ามกลางความสุขของแฟนๆ และนี่ไม่ใช่การค้าแข้งแบบปลายอาชีพแต่อย่างใด เพราะเขายังคงสุดท้ายเช่นเคย แถมยังฝากสุดยอดลูกยิงอีกครั้ง ในนัดที่เจอกับฮาเล็ม กับลูกที่ข้ามหัวอย่างเหนือชั้น ตามมาด้วยกับการเล่นลูกจุดโทษในตำนาน ที่ไม่ยิงรวดเดียวทันที และเป็นการยิงแบบเบิ้ลวันทูแล้วเตะไหลสั้นๆเข้าประตูไปนิ่มๆแต่คลาสสิก

โดยครั้งนี้เขาอยู่กับอายักซ์ อัมสเตอร์ดัมด้วยกันถึง 2 ฤดูกาลและสามารถคว้าแชมป์ลีกได้ถึง 2 ปีเลย แต่ทว่าเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นเมื่อกุนซือในตอนนั้นตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับเขา ทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก ก่อนจะแก้แค้นด้วยการย้ายไปอยู่สโมสรคู่แข่งตลอดกาลอย่าง ไฟเยอโนร์ด ซึ่งในปีนั้นเขาลงเล่นเกือบครบทุกนัด แถมในตอนนั้น ไฟเยอโนร์ด ก็มียอดนักเตะอย่าง รุด กุลลิท อยู่ในทีมด้วย

ติดตามข่าวสารฟุตบอล โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลและประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ ได้ที่เว็บไซต์ KUBET

ตำนานก็คือตำนาน

สุดท้ายการแก้แค้นก็เห็นผล เพราะ “โยฮัน ไกรฟฟ์” พาไฟเยอโนร์ดคว้าแชมป์ลีกได้สำเร็จเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีบวกกับการย่ำหน้าอัซ เดอะมอสอย่างสาสม ด้วยการที่เขาคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของลีกดัตซ์ได้อีกด้วย และท้ายที่สุดเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดไปอย่างยิ่งใหญ่ ปิดฉากนักเตะเทวดาในปี 1984 กลายเป็นบุคคลในตำนานวงการลูกหนัง

จุดเด่นสำคัญของโยฮัน ไกรฟฟ์นั่นคือ เขาเป็นผู้เล่นที่มีแท็กติกเฉพาะตัว สกิลหลบหลีกชั้นเลิศพร้อมกับการเลี้ยงลูกหลบที่ถึงขั้นเรียกว่า “ไกรฟฟ์เทิร์น” นอกจากจะมีเทคนิคเหล่านี้แล้ว เขายังเป็นนักเตะที่มีมุมมองวิสัยทัศน์ที่ดี เล่นฟุตบอลด้วยสมอง ซึ่งครั้งหนึ่งโยฮัน ไกรฟฟ์เคยพูดไว้ว่า 

ซึ่งแนวคิดตรงนี้ก็ทำให้เขาพาบาร์เซโลนาประสบความสำเร็จในฐานะผู้จัดการทีมอีกด้วยในภายหลัง และแม้เขาจะเล่นบอลได้พริ้วสักแค่ไหน แต่ก็มีจังหวะที่เขาเล่นลูกง่ายๆแต่กลับมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังประโยคเด็ดที่สุดอมตะที่เขาเคยฝากเอาไว้ว่า 

และนี่ก็คือเรื่องราวน่าประทับใจของสุดยอดนักเตะในตำนานที่เป็นขวัญใจและไอดอลในวงการฟุตบอลของใครหลายๆคน “โยฮัน ไกรฟฟ์” เสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2016 ด้วยโรคมะเร็งปอด ในวัย 68 ปี แต่ถึงอย่างนั้นวิสัยทัศน์ มุมมองการเล่นฟุตบอล และแท็กติกต่างๆของเขาก็ยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของแฟนบอลทั่วโลกในยุค 90 ไม่จางหายไป…

สามารถติดตามอ่านประวัตินักเตะคนอื่นๆ ต่อได้ที่เว็บไซต์ KUBET World ให้คุณอัพเดทข่าวสารวงการฟุตบอลแบบเรียลไทม์ โปรแกรมบอล วิเคราะห์บอลแบบจัดเต็ม ประวัตินักเตะที่คุณไม่เคยทราบ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดฟุตบอลทุกแมตช์จนจบฤดูกาล เพียงเป็นสมาชิกเคยูเบท ลุ้นเกมเดิมพันสุดมันส์และรับสิทธิประโยชน์อีกมากมาย สมัครเลย!