ติดตามเนื้อหาก่อนหน้าได้ทาง EP.1 มาต่อกันด้วยเนื้อหาในส่วนที่เหลือกับ โค้ชสโมสรฟุตบอลชายที่ดีที่สุดในโลกปี 1996 – 2020 สถิติจาก IFFHS สำหรับบรรดาโค้ช ที่สร้างชื่อให้ทั้งทีมฟุตบอลและนักเตะ รวมถึงสร้างสถิติประดับการแข่งขันในแต่ละประเภทเอาไว้มากมาย จะมีใครกันบ้าง KUBET ได้ทำการรวบรวมมาให้ได้ชมกันแล้ว
โค้ชสโมสรฟุตบอลชายที่ดีที่สุดในโลกปี 1996 – 2020 สถิติจาก IFFHS EP.2
ปี 2001 อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ (Ottmar Hitzfeld)

อ็อตมาร์ ฮิตซ์เฟลด์ (Ottmar Hitzfeld) เป็นอีก 1 ปี ที่เขาได้รับรางวัลนี้จาก IFFHS เขาเริ่มเข้าวงการฟุตบอลตั้งแต่ปี 1960 โดยการเป็นนักฟุตบอล ร่วมกับ TuS Stetten และ FV Lörrach ในลีกเยอรมันตอนล่าง ก่อนที่เขาจะได้รับความสนใจจากทีมเอฟซี ดิวิชั่น 1 ของสวิตเซอร์แลนด์ และเขาเริ่มเข้าสู่วงการโค้ชในปี 1983 ในฤดูกาล 2000–01ฮิตซ์เฟลด์ นำไบเอิร์นมิวนิกไม่เพียงแต่ทำแฮตทริกในการแข่งขันชิงแชมป์ลีก แต่ยังเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกอีกด้วย
ปี 2002 บิเซนเต เดล โบสเก (Vicente del Bosque)

บิเซนเต เดล โบสเก (Vicente del Bosque) เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลและอดีตนักเตะชาวสเปน เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล และจนถึงปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลคนเดียวที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลก, แชมเปียนส์ลีก, แชมป์ยุโรป และอินเตอร์คอนติเนนตัล คัพ ได้สำเร็จ หลังจากรับช่วงต่อจาก Luis Aragonés ซึ่งเคยพาสเปนคว้าแชมป์ยุโรปในศึกยูฟ่ายูโร 2008 เดล โบสเก ก็เป็นผู้นำทีมชาติคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 2010 และรักษาแชมป์ยุโรปไว้ได้ในปี 2012
เขาเป็นโค้ชให้กับ เรอัล มาดริดตั้งแต่ปี 1999 ถึง 2003 ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดช่วงหนึ่งในยุคสมัยใหม่ของสโมสร
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
ปี 2003 คาร์ลอส เบียงคี (Carlos Bianchi)

คาร์ลอส เบียงคี (Carlos Bianchi) อีก 1 ปีที่เขาได้รับรางวัล เบียงคีเปิดตัวในฐานะผู้จัดการทีมในเดือนมีนาคม 1985 ในช่วงเวลาที่เขาเป็นนักฟุตบอล เขาเองก็สร้างสถิติที่น่าชื่นชมเอาไว้มากมายเช่นกัน เบียงคีได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาล เนื่องจากสถิติการทำประตูที่น่าประทับใจของเขาทั้งในฝรั่งเศสและอาร์เจนตินา เขาเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของ Vélez Sarsfield ด้วยจำนวน 206 ประตู เขายังเป็นหนึ่งใน ผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของฝรั่งเศส ดิวิชั่น 1 โดยทำได้ 179 ประตู อีกด้วย
ปี 2004 โชเซ มูรีนโย (José Mourinho)

โชเซ มูรีนโย (José Mourinho) เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลอาชีพชาวโปรตุเกสและอดีตผู้เล่นซึ่งล่าสุดดำรงตำแหน่งหัวหน้าโค้ชของสโมสรโรมาในกัลโชเซเรียอาของอิตาลี มูรีนโยเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ได้รับรางวัลส่วนตัวมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางว่าเป็นหนึ่งในผู้จัดการทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล เขามีความสามารถมากมายในการเป็นโค้ชทั้ง ความรู้ทางยุทธวิธี บุคลิกที่มีเสน่ห์ และมีชื่อเสียงในด้านการจัดลำดับความสำคัญของผลการแข่งขันมากกว่าฟุตบอลที่สร้างกระแสให้สื่อสนใจ เขาได้รับคำชื่นชมทั้งจากแฟนบอลและนักวิจารณ์มากมายในวงการฟุตบอล
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลจากทั่วโลกได้ทางเว็บไซต์ KUBET)
ปี 2005 โชเซ มูรีนโย (José Mourinho)

โชเซ มูรีนโย (José Mourinho) อีก 1 ปี ที่เขาได้รับรางวัลนี้ เขาก้าวเข้าสู่เส้นทางของโค้ชทีมฟุตบอลในปี 1990 จากการเป็นผู้ช่วยก่อนในช่วงแรก ความสามารถของเขาทำให้เขาได้รับสัญญาอย่างเป็นทางการกับ Sporting CP เขาได้มีโอกาสทำงานร่วมกับ Louis van Gaal และได้เรียนรู้สไตล์ที่รอบคอบ ผสมผสานแนวทางที่ขยันขันแข็งกับเกมจาก Louis van Gaal
มูรีนโยมีชื่อเสียงในเรื่องความกล้าหาญด้านเทคนิค , การบริหารเกม, และความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ทีมที่อยู่ภายใต้การบริหารของเขามักจะแสดงให้เห็นถึงความตระหนักในการป้องกันที่ยอดเยี่ยมตลอดจนความสามารถในการเปลี่ยนผ่านที่รวดเร็ว ลักษณะทั่วไปของทีมของเขาคือการเล่นกับกองกลางตัวกลางตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป เนื่องจากเขา เน้นย้ำถึงความเหนือกว่าในตำแหน่งกองกลางซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการชนะเกม เขามักจะใช้รูปแบบการเล่นแบบไดมอนด์ 4–4–2 อย่างไรก็ดี แผนการเล่นของเขาก็มักจะถูกเปลี่ยนให้เข้ากับทีมที่เขาคุมเสมอ
ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่องได้ทาง EP.3 รวมถึงช่องทางการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการฟุตบอลจากทั่วโลก ทั้งโปรแกรมการแข่งขัน การวิเคราะห์ผลบอลก่อนแข่ง และช่องทางการรับชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลในทุกแมตช์การแข่งขัน ติดตามทั้งหมดได้ทางเว็บไซต์ KUBET เว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวงการฟุตบอล ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้นๆของประเทศไทย