ฟุตบอล ยุคใหม่เต็มไปด้วยความรวดเร็วและเข้มข้น การเพรสซิ่งสูง การครองบอล และการเปลี่ยนจากรับเป็นรุกอย่างรวดเร็ว กลายเป็นหัวใจสำคัญของทีมชั้นนำทั่วโลก แท็กติกเก่าๆต่อจาก EP.1 จะมีอะไรบ้าง พร้อมแล้วไปลุยกันครับ
แท็กติกที่ 4 ระบบ wm

ระบบ wm ถูกคิดค้นโดย เฮอร์เบิร์ต แชปแมน (Herbert Chapman) ในปี1920 อายุ 100 กว่าปีมาแล้ว เพื่อตอบสนองต่อกฎล้ำหน้าที่เปลี่ยนไปในยุคนั้น อาร์เซนอลในปี 1930 ได้ครองความยิ่งใหญ่ เพราะความสมดุลของระบบนี้มาแล้ว
ระบบ wm หรือ 3-2-2-3 จะมีกองหลัง 3 ตัว โดยมีเซนเตอร์แบ็กอาชีพแค่ตัวเดียว ขนาบข้างด้วยผู้เล่นฟูลแบ็ก 2 คน แล้วให้มิดฟิลด์ตัวรับ 2 คน สลับลงมาเล่นเป็นเซนเตอร์ฮาฟตามลำดับ ในขณะที่ฟูลแบ็ก 2 ข้างจะขยับเข้ามาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางตามลำดับของเกม ระบบนี้เซนเตอร์แบ็กต้องรับหน้าที่ตามประกบกองหน้าฝ่ายตรงข้าม 2 คน แต่ก็มีพวกมิดฟิลด์ตัวรับเข้ามาช่วย 2 ฝั่ง
จุดจบของระบบ wm
ระบบนี้ได้พังทลายลงหลังจากฮังการีถล่มอังกฤษ 6-3 ในปี 1953 ซึ่งเป็นแมตซ์แห่งศตวรรษ โดยในวันนั้นฮังการีมาในระบบ 2-3-3-2 หรือเรียกกันว่าแผน mm ที่มีการเคลื่อนที่ของผู้เล่นแบบอิสระ
ปัจจุบันระบบนี้หายไปแล้วเรียบร้อยแต่แนวคิดการจัดระเบียบโซนเกมรับของ wm ถูกต่อยอดโดยโค้ชอย่างซัคกี้ และพัฒนามาเป็นระบบ 4-2-3-1 ในปัจจุบัน แล้วก็เป็นเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ยอดโค้ชจากแมนซิตี้ก็เคยขุดระบบ wm มาใช้ และชนะเอฟเวอร์ตันไปได้ 3-1 โดยเกมวันนั้นเป๊ปไม่ได้ใช้กองหน้าอาชีพ และทีมที่เล่นในระบบนี้ได้ในปัจจุบันต้องมีความเข้าใจฟุตบอลสูงมาก
แท็กติกที่ 5 ระบบการประกบตัวแบบ Man marking

ระบบการประกบตัวแบบ Man marking เคยเป็นหัวใจสำคัญของระบบคาเตนัคโช (Catenaccio) และเคยมีนักเตะอย่างเคลาดิโอ เจนติเล่ เคยตามประกบดิเอโก มาราโดนา แบบไม่ปล่อยให้หายใจ จนเมื่อมาถึงยุคที่ Man marking ถูกฆ่าทิ้ง คือยุคของอาร์ริโก้ ซัคกี้ กับเอซีมิลานในปี 1987
วันนั้นมิลานได้เปลี่ยนโลก ฟุตบอล ยุคของการประกบโซนที่ทำให้แนวรับเคลื่อนที่พร้อมกัน แทนที่จะไล่ตามผู้เล่นแต่ละคน สุดท้ายแท็กติก Man marking ก็ล้าสมัย เพราะถ้าผู้เล่นถูกดึงออกจากตำแหน่ง โครงสร้างของเกมรับจะพังทันที
ปัจจุบัน แม้ว่าการประกบตัวแบบ Man marking จะเลือนหายไป แต่หลายทีมก็ยังมาใช้กันในระบบแมนมาร์กเพื่อปิดเกม ยกตัวอย่างเช่นที่ลิเวอร์พูล ส่งวาตารุ เอ็นโดลงมาตามประกบคุนญ่า จากวูล์ฟแฮมป์ตัน แบบตัวติดกัน แต่ว่าแมนมาร์กไม่ได้ถูกนำมาใช้แบบ 90 นาทีอีกต่อไปแล้ว
แท็กติกที่ 6 กองหน้าตัวเป้า

ในยุคของลูกกลางอากาศที่ล่มสลายไปแล้วแบบไม่รู้ตัว เมื่อก่อนโลกฟุตบอลจะมีกองหน้าตัวเป้าที่ใช้ลูกกลางอากาศเป็นหลัก เคยเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดโดยระบบ 4-4-2 พวกเขามีนักเตะปีเตอร์ เคราช์, แอนดี้ แคร์โรลล์ พวกเขาทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการโจมตี โดยรอรับบอลจากปีกและลูกตั้งเตะ แต่ทุกอย่างมันล่มสลายเพราะคำว่า ติกิตาก้า (Tiki Taka)
ติกิตาก้าของเป๊ป กวาร์ดิโอลา ถูกคิดค้นขึ้นมาในปี 2008 หลังจากที่โลกฟุตบอลได้รู้จักคำว่าติกิตาก้าก็เริ่มเน้นการครองบอล และการจ่ายบอลบนพื้น มากกว่าการเปิดบอลยาว นอกจากนี้กองหลังที่ออกบอลได้ดีอย่างเคราร์ด ปิเก้ ก็ทำให้การเตะบอลยาวสูญเสียความสำคัญไปได้ และที่สำคัญ ระบบ F9 ก็ทำให้กองหน้าหมายเลข 9 รอเล่นลูกกลางอากาศอย่างเดียวแทบจะหายไปเลย


แต่แม้ว่ากองหน้าตัวเป้าแบบดั้งเดิมจะหายไปเช่น เออร์ลิง ฮาแลนด์ และแฮร์รี่ เคน ก็ได้พัฒนาตัวเอง พัฒนาบทบาทให้เป็นกองหน้าตัวเป้าที่สามารถเพรสซิ่งและลงมาเชื่อมเกมได้ วิ่งหาช่องได้ ซ้ำร้าย กองหน้าสไตล์ดั้งเดิมหมายเลข 9 ในหลายๆทีมมักใช้เป็นแผนสำรองมากกว่าจะเป็นตัวจริง เหมือนตอนที่แมนยูมีเวาต์ เวคอสต์ เพราะว่าหมายเลข 9 ในปัจจุบัน ต้องมีอาวุธที่ครบเครื่อง เก็บบอลได้ จ่ายบอลดี พักบอลได้
ทำไมแท็กติกนี้ถึงหายไป?

ฟุตบอลเพรสซิ่งรวดเร็วขึ้น ระบบที่เจอร์เก้น คล็อปป์ ใช้กับลิเวอร์พูล ซึ่งต้องการให้ผู้เล่นทุกคนไล่บอล และทำให้ระบบที่มีตำแหน่งลิเบโร่ ตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าแบบดั้งเดิมใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป
เป๊ป กวาร์ดิโอลา เน้น Position Play ทำให้ผู้เล่นปรับตำแหน่งได้ตลอด และทำให้ระบบที่แข็งตัวอย่าง wm หรือ 4-4-2 ไม่สามารถแข่งขันได้ และที่สำคัญ นักเตะยุคใหม่ วิ่งมากกว่ารุ่นเก่าถึง 40% ทำให้ระบบที่มีตำแหน่งตายตัวกลายเป็นจุดอ่อนในฟุตบอลที่มีความเร็วสูงขึ้น
หากมองย้อนกลับไป เราจะเห็นได้ว่าแท็กติกในโลก ฟุตบอล มีลักษณะเป็นวัฏจักร หลายกลยุทธ์เคยถูกมองว่าล้าสมัย อาจกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งเมื่อโลกฟุตบอลเปลี่ยนไป ดังนั้นไม่มีแท็กติกใดที่ตายอย่างสมบูรณ์ ขึ้นอยู่กับว่านักเตะและโค้ชยุคใหม่จะดัดแปลงให้เข้ากับฟุตบอลสมัยใหม่ได้หรือเปล่า
ไม่พลาดทุกแมตช์สำคัญ รับชมฟุตบอลสดฟรีทุกที่ทุกเวลา แทงบอลออนไลน์ลุ้นเงินรางวัลมากมาย และสนุกกับคาสิโนออนไลน์เว็บตรงที่จ่ายจริงไม่มีโกง รับโบนัสต้อนรับ 1,500 บาท เมื่อสมัครสมาชิกใหม่ กรอกรหัส DW338