ย้อนรอยประวัติศาสตร์ฟุตบอลไปกับ KUBET กับเรื่องราวของรอย คีน กับอัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ ที่เคยตกเป็นประเด็นเรื่องราวใหญ่โตที่ไม่ได้มีแค่การแข่งขัน สนามฟุตบอลที่ถูกเปลี่ยนเป็นสนามระบายความแค้น และเอาคืนที่รอคอยมานาน พร้อมกับราคาที่ต้องจ่ายมากถึง 30 ล้านบาท เรื่องราวจะเป็นอย่างไร ขุดประวัติลูกหนังไปพร้อมกันได้เลย
ย้อนกลับไปในสนามฟุตบอลลีก

ในปี 1993 อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ หรือที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เขาคือพ่อแท้ๆของ อาลิง เบราต์ โฮลัน หรือ ฮาแลนด์ จากทีมเรือใบสีฟ้า สำหรับศึกในพรีเมียร์ลีก อิงเก้ลงเล่นให้กับสโมสรฟุตบอลนอตทิงแฮมฟอเรสต์ ก่อนจะย้ายไปลีดส์ยูไนเต็ดในปี 1997 ซึ่งเป็นช่วงที่ภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์เด็กน้อยฮาแลนด์อยู่ นั่นทำให้ฮาแลนด์เกิดและเติบโตขึ้นมาที่ประเทศอังกฤษ

ในศึกวันที่ 17 กันยายน 1997 อิงเก้ลงเล่นให้กับลีดส์ในศึกพรีเมียร์ลีกที่ต้องเจอกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นนัดที่แมนยูไปเยือนลีดส์ ภายในเกมการแข่งขัน มีจังหวะที่อิงเก้เข้าปะทะบอลกับรอยคีนในจังหวะที่ผิดรูป เป็นเหตุให้รอยคีนเอ็นเข่าขาด คีนล้มลงไปกองทันทีหลังจากการปะทะดังกล่าว ทว่าไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้น อิงเก้ได้เดินกลับมายังคีนอีกครั้ง เนื่องจากคิดว่าคีนแกล้งเจ็บ พร้อมตะคอกใส่ร่างของเขาที่นอนอยู่บนพื้นว่า “สำออย หยุดเล่นละครตบตาได้แล้ว”
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้คีนโดยหามออกจากสนามทันที พร้อมเข้ารับการรักษา และพักฟื้นนานกว่า 1 ปีก่อนจะกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีกครั้ง สำหรับเกมในครั้งนั้นแมนยูแพ้ลีดส์ด้วยสกอร์ 1 ประตูต่อ 0
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหว ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)

ในปี 2001 รอยคีนได้มีโอกาสพบกับอิงเก้อีกครั้งในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้ ที่อิงเก้ได้ย้ายไปอยู่กับแมนซิตี้แล้วในตอนนั้น ในศึกครั้งนี้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดเป็นฝ่ายเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของแมนซิตี้ กระทั่งในนาทีที่ 86 ของเกมการแข่งขัน รอยคีนได้เข้าปะทะอิงเก้พร้อมใช้เท้าถีบเข่าของอิงเก้อย่างตั้งใจ ซึ่งดูยังไงก็ตั้งใจเตะคนมากกว่าฟุตบอล และเขารู้ดีว่าการกระทำของเขาต้องโดนใบแดงอย่างแน่นอน ก่อนที่เขาจะออกสนามเขาก็ได้เดินเข้าไปหาอิงเก้แล้วพูดเช่นเดียวกับที่อิงเก้เคยพูดกับเขา

แน่นอนว่านี่มัน การแข่งขันช่วงท้ายเกม และเป็นการแข่งขันในนัดที่ 34 แล้วด้วย และคะแนนของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในตอนนั้นก็เป็นแชมป์ลีกได้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน อย่างไรก็ดีเหตุการณ์ในครั้งนั้นรอยคีนโดนแบน 4 นัดและปรับเงินจำนวน 5 พันปอนด์
ในส่วนของอิงเก้ เนื่องจากเขามีความเจ็บสะสมที่เข่าข้างซ้ายมานานแล้ว และมาโดนรอยคีนตั้งใจถีบที่เข่าข้างขวาอีก นั่นทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นของเขาลดลงอย่างชัดเจน เขาไม่สามารถลงเล่นเต็มเวลาได้ แถมยังต้องผ่าตัด รักษา รวมถึงอายุที่เกือบจะเข้าเลข 3 ทำให้อิงเก้ตัดสินใจประกาศแขวนสตั๊ดหลังจากนั้นไม่นาน
คำสารภาพ

อัลฟ์ อิงเก้ ฮาแลนด์ ประกาศเลิกเล่นฟุตบอลในปี 2003 แน่นอนว่าหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้ถือโทษหรือก่อความแค้นใดๆ ต่อไป ทว่า 1 ปีหลังจากนั้น รอยคีนก็ได้เขียนหนังสือชีวประวัติของตัวเองขึ้น โดยมีเนื้อหาส่วนหนึ่งได้กล่าวถึงการกระทำของเขาในตอนนั้น
“ผมรอมานานกว่า 3 ปีในจังหวะนั้น ผมเห็นเขาได้บอลใกล้ๆกับริมเส้น ผมรอจังหวะที่ใช่ที่สุดแล้วอัดแม่งให้หนัก แล้วอย่ามากล้าดียืนค้ำหัวกู หาว่ากูแกล้งเจ็บอีก และแน่นอน ผมไม่รอให้ผู้ตัดสินควักใบแดง ผมกะจะเล่นบอลรึเปล่า งั้นมั่ง.. ”
(สามารถติดตามความเคลื่อนไหว ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET)

หลังจากหนังสือของเขาได้ถูกเผยแพร่ออกมา อิงเก้ได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมดก็ทำให้เขาโมโหขึ้นมาเช่นกัน ซึ่งเนื้อหาทั้งหมดมันแปลว่ารอย คีนจงใจทุกอย่าง อิงเก้ได้ทำการแจ้งเรื่องกับทางเอฟเอทันทีเพื่อเอาผิดรอยคีน เป็นเหตุให้สมาคมฟุตบอลอังกฤษเปิดการไต่สวนเขาทันที ผลสรุปการพิจารณาคดี คีนโดนปรับเงิน 10 ล้านบาท (ค่าปรับสูงสุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก) รวมถึงการเสียค่าทนายความให้ทั้งสองฝ่ายอีก 5 หมื่นปอนด์ แมนยูสั่งปรับค่าเหนื่อยอีก 2 สัปดาห์เท่ากับ 2 แสนปอนด์ รวมแล้วทั้งสิ้น ค่าชดเชยของรอยคีนทั้งหมด 4 แสนปอนด์ หรือราวๆ 30 กว่าล้านบาท
ปัจจุบันกับเด็กยักษ์

แน่นอนว่าเรื่องราวในอดีตจบลงไปนาน กระทั่งมีการพูดถึงอีกครั้งในศึกแมนเชสเตอร์ดาร์บี้วันที่ 29 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา แมนยู พบกับแมนซิตี้ ในจังหวะที่ฮาแลนด์ทำประตูได้ แฟนบอลฝั่งแมนยูกลับตะโกนใส่เขาว่า “คีโน่” เขารู้ดีว่านั้นเป็นชื่อของใคร แต่เขาไม่เข้าใจว่าแฟนบอลแฟนผีจะตะโกนใส่เขาทำไมเพราะเขาไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด จังหวะที่เขาทำประตูได้ เขาจึงตะโกนกลับแฟนผีไปว่า “รอยคีน”
สำหรับบทสรุปของการพบกันของแมนยูและแมนซิตี้ในวันนั้น แมนซิตี้เอาชนะไปได้ด้วยสกอร์ 3 ประตู ต่อ 0 ซึ่งฮาแลนด์เป็นนักเตะที่ยิ่งประตูในเกมการแข่งไปทั้งหมด 2 ประตู
และนี่ก็คือเรื่องราวของความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นในสนามฟุตบอลที่ไม่ได้จบแค่ในสนามเท่านั้น อย่างไรก็ดี การบันดาลโทสะย่อมเกิดขึ้นได้ในสนามแข่ง แต่การควบคุมสติในฐานะมนุษย์คนหนึ่งก็พึงมีไว้เช่นกัน ความรุนแรงไม่เคยนำมาซึ่งจุดจบที่งดงาม การแก้แค้นก็เช่นกัน สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของวงการฟุตบอลได้ทางเว็บไซต์ KUBET